[ผู้ร่วมสนทนา] คือคนค่อนผมว่า ตอนนี้เยอะมากนะอาจารย์ ที่แบบว่ากลายเป็นโรควิตกตรงติดเพ่งเนี่ย ผมเลยสงสัยว่าตรงติดเพ่งเนี่ย พระพุทธเจ้าเคยตรัสกับใครมั้ย คือผมถามแบบคนไม่รู้เลยนะอาจารย์ ว่ามาได้ยังไง มาจากไหนคำนี้ แล้วคนดูแบบเป็นวิตกกันมาก ว่ากลัวจะติดเพ่ง ทั้ง ๆ ที่จริงจริงแล้วเนี่ย การเพ่งมันคือวิธีที่ทำให้เกิดสมาธิไม่ใช่เหรออาจารย์ ผมก็เลยสงสัย [อาจารย์ Aero.1] ก็ต้องนิยามคำว่าเพ่งที่เค้าพูดก่อน ว่าคำว่าเพ่งที่เค้าพูดในที่นี้นี่หมายถึงอะไร จริงๆ แล้วสิ่งที่คนเค้าพูดกันนี่ มาจากภาษาของครูบาอาจารย์นะ แล้วคำว่าเพ่งเองเนี่ย ถ้าในพระไตรปิฎกที่แปลมาเป็นไทยเนี่ย เพ่งเนี่ยมาจากภาษาบาลีก็คือฌานเลย ฌานนี่แปลว่าเพ่ง แต่ทีนี้คำว่าฌานในสัมมาฌานของพระพุทธเจ้าเนี่ย ไม่ใช่เพ่งแบบทั่วไปหนะนะ เป็นเรื่องของการเพ่งแบบที่ผ่อนคลายนะ แล้วมีศัพท์คำนึงที่คู่กันก็คือมนสิการ ก็คือยกจิตตั้งอารมณ์ไว้อย่างจดจ่อต่อเนื่อง เนี่ยอาการเพ่ง คำว่าเพ่งในที่นี้ไม่ใช่ อาการเพ่งแบบเขม็งเข็งเกลียว.หรือเข่นอารมณ์ อย่างงี้ ครูบาอาจารย์สายป่าจะบอกว่า อย่าเพ่ง อย่าติดเพ่ง มีคำว่า”ติด”เข้ามาอีก ติดเพ่ง ติดในที่นี้ก็คือการเพ่งเป็นอุปสรรค อุปสรรคหมายถึงอะไร ก็หมายถึงไปเข่นอารมณ์ ก็คือตัวฉันทะถูกตั้งไว้ผิดหนะ มันกลายเป็นการขวนขวายที่จะทำ ที่จะทำ โดยที่มีตัณหาเข้าไปผูกอารมณ์ไว้ เพราะฉะนั้น เวลาเราตั้งอารมณ์ผิดเนี่ย จิตมันจะไปผูกกับผลนะ เพ่งแล้วต้องได้ดีสิ เพ่งแล้วต้องได้นู่นได้นี่สิ เพราะอะไรฮะ เพราะพื้นฐานไม่ได้ถูกปูไว้เลย…