[ผู้ร่วมสนทนา]
อาจารย์ครับ อาจารย์ครับ
[อาจารย์ Aero.1]
เชิญครับ
[ผู้ร่วมสนทนา]
ขออีกซักประเด็นได้มั้ยครับ
[อาจารย์ Aero.1]
เชิญครับ เชิญ
[ผู้ร่วมสนทนา]
เอ่อ ในเรื่องของวัตถุที่ 4 นะครับ กายสังขารระงับเนี่ย โดยส่วนตัวเนี่ยที่ผมไปปฏิบัติมา แล้วก็รู้จักผู้ปฏิบัติโดยมากนะครับ น่าจะมีสัญญาที่ผิดไป ก็คือเข้าใจว่าถึงฌานที่สี่ หนะนะครับ ก็คือลมไม่มี
[อาจารย์ Aero.1]
แน่นอน
[ผู้ร่วมสนทนา]
นะครับ แล้วก็ทำให้เกิดเป็นตัวเป็นตนคิดว่าตัวเองได้ฌานแล้วก็ติดอยู่อย่างนั้นมานาน อาจารย์มีความเห็นเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับอาจารย์
[อาจารย์ Aero.1]
ผมพูดเสมอนะในเทปก็มี ในวิดีโอ ผมทำประมาณ 7 วัน ผมก็ถึงตรงนั้นแล้ว ตอนเริ่มใหม่ ๆ หนะ ทีแรกก็เข้าใจว่าใช่ พอมานั่งคิดมานั่งทำ เห้ย ไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่ฌานสี่ ผมเนี่ยพยายามละนิวรณ์ ตลอดทั้งวันนะ เพราะอะไร เพราะผมอยากไปบิณฑบาตรเอาข้าวเทวดา อันนี้คือหลักของใครครับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ สมัยนู้นนะ สมัยฝึกแรกๆ หนะ
เพราะฉะนั้น จำนวนมากเลย พอไปถึงตรงแค่นี้ซึ่งเราปฏิบัติกันเนี่ย ลมหายนี่นะอย่าไปบอกเลยว่าวัตถุ 4 เค้าเข้ามาลมหายแบบฟลุ๊คๆ เพราะไม่มีญาณประกอบใด ๆเลย นึกออกมั้ย เป็นอย่างนั้นนะ
[ผู้ร่วมสนทนา]
ครับอาจารย์ครับ
[อาจารย์ Aero.1]
แล้วไม่มีลมยาวไม่มีลมสั้นด้วยเนี่ยยิ่งไปกันใหญ่ ความสงบของเค้าเป็นเพียงแค่ผิวเผินมาก ผมเคยเป็นไง รู้ แต่ไปบัญญัติว่านั่นฌานสี่ ไง ลองคิดดูอะไรจะเกิดขึ้น โอ้โห มันคนละเรื่องเลยทีนี้ ผิดฝาผิดตัวหนะ ผมก็เลยถาม บอกว่า เอาอย่างนี้ ถ้าคิดว่าตรงนั้นหนะเป็นฌานสี่ หนะ มันนานได้ขนาดไหน ที่ว่าลมหายเนี่ย ผมว่าเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์คือไม่กี่นาทีอ่ะ ก็หลุดออกมา จะมีก็คนที่อย่างพวกเรานี่แหละ ที่เข้าตามลำดับไปเข้าสู่ลมดั่งกังสดาลแล้วเนี่ย มันนานเท่านานหนะ เป็นชั่วโมงก็ไม่ใส่ใจ ไม่มีลม แต่คนเหล่านี้เค้ารู้ทางหมดแล้ว รู้หมดว่าไม่ใช่ฌานสี่
เพราะฉะนั้น ถามว่าจะบอกเค้ายังไง ก็ต้องบอกว่า เหล่านั้น สะกิดเค้านะครับว่า อย่าพึ่งมั่นใจ อาจจะไม่ใช่นะ ถ้าเป็นผมผมจะวิเคราะห์แบบนี้นะ มีความคิดเห็นแบบนี้ มีตั้งข้อสังเกตแบบนี้ แล้วก็มีแบบที่ชี้ให้เค้าเห็นด้วยในวรรคของวิสุทธิมรรคชี้ไว้ชัดเจนหนะ ว่าตอนที่ลมหายเนี่ยมีคนเจ็ดประเภทใช่มั้ยครับ หรือสิบประเภทนี่แหละที่ไม่มีลมหนะ ไล่ตั้งแต่ผู้ทรงฌานสี่ ผู้ทรงสมาบัติ ผู้จมน้ำ ผู้หมดสติ บุคคลที่ตายแล้ว บุคคลที่อยู่ในครรภ์อะไรต่าง ๆ แบบนี้ ไม่มีลมหายใจ
เพราะฉะนั้น เรายังไม่ใช่ผู้ที่ทรงฌานสี่หรือว่าเป็นบุคคลเหล่านั้นนี่ อย่าเชื่อว่าตอนนั้นเป็นฌานสี่ ข้อความนี้มีปรากฏชัดเลย เพราะฉะนั้น เราก็ต้องบอกคน คนที่เราพึงบอกได้นะ ไม่ใช่ไปบอกโดยทั่วไป แต่วีดีโอเราก็พูด อย่างมีคำถามอย่างนี้ แพร่ภาพออกไปหรือว่าแพร่เสียงออกไปก็ชี้ชัดได้ฮะ ควรชี้ชัดเลย
บางคนบอกว่าเข้าไปถึงตรงนั้นแล้วเนี่ยหายใจทางผิวหนัง โอ๊ย ไปกันใหญ่ คนไม่ทราบแนวการปฏิบัติเนี่ย พอบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญนะไปคิดว่าเป็นฌานสี่เนี่ย มันผิด มันเข้าใจผิดเนี่ย เค้าอาจจะคิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ก็ปฏิบัติต่อไปเดี๋ยวก็เข้าใจถูกเองในอนาคต ผมบอกไม่ใช่ เพราะว่าอะไร พอว่าเป็นฌานสี่เค้าไม่ได้หยุดแค่นั้นนะ พอเค้าคิดว่าเป็นฌานสี่ปุ๊บ เค้าจะทำอะไรต่อ เค้าก็จะทำวิปัสสนาแล้วทีนี้ ไอ้ตัวไปทำวิปัสสนาเนี่ยตัวตนไปทำล้วน ๆ เลย แล้วยิ่งมีความเพียรมากปฏิบัติอุกฤษฎ์มาก ทีนี้แหละ จะเป็นโพธิสัตว์กันหมดแหละทีนี้ ข้าเป็นโพธิสัตว์หมด เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะปฏิบัติไปถึงจุดนึงเนี่ยมันจะละวางหมด แล้วก็จะวางศีล แล้วศีลก็จะทำไม่ดี แล้วก็บอกว่าเข้านิพพานไม่ได้ เป็นโสดาบันไม่ได้ เพราะฉะนั้นเค้าเกิดมาเพื่อเป็นโพธิสัตว์
ธรรมพวกนี้คือธรรมที่ยกโขยงเข้าสู่มหายานหมดเลย อันตรายมากนะ ถ้าไปถึงตรงนั้นหนะ คนที่มีปฏิปทาดี ๆ เนี่ยจะเปลี่ยนเป็ปฏิปทานอกแนวไปเลย เพราะอะไร เพราะอาศัยความปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เพราะมีศรัทธา แต่เป็นศรัทธาที่ไม่ได้เจือปัญญาเลย เพราะไม่ได้ตั้งพาหุสัจจะ แล้วก็ไม่ได้ตั้งศีลไว้เป็นอริยกันตศีล เนี่ยเป็นเพราะอะไร ก็เป็นเพราะกรรมทั้งนั้นแหละครับ กรรมในการปฏิบัติ กรรมในการถ่ายทอดในทางที่ผิด กรรมในการถือศีลที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เน่าใน เป็นอย่างนี้หมด
[ผู้ร่วมสนทนา]
ขอบคุณครับอาจารย์
[อาจารย์ Aero.1]
ครับ
จบนาทีที่ 45.40
จาก คลิป วิธีตรวจสอบหลักภาวนาที่ถูกตรง โดยท่านอาจารย์ Aero.1
นาทีที่ 39.56-นาทีที่ 45.40