[ผู้ร่วนสนทนา]
ผมอยากรบกวนท่านอาจารย์ Aero.1 คือเท่าที่ฟังท่านอาจารย์มา รู้สึกว่าอาจารย์จะไม่ค่อยอธิบายขยายความเรื่องสัมปชัญญะ ความรู้ตัวทั่วพร้อม คือคิดว่ามันน่าจะเป็นเหตุปัจจัยอันนึงที่ทำให้การปฏิบัติที่มันก้าวหน้าและอาจต้องไปใช้ในวัตถุต่อต่อไป ก็อยากรบกวนอาจารย์ขยายความเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในเรื่องสัมปชัญญะนะครับ ท่านอาจารย์ครับ ขอบคุณมากครับ
[อาจารย์ Aero.1]
ก็ถ้าจะให้ขยายเรื่องสัมปชัญญะนะครับ หลักก็คือสัมปชัญญะ4 แต่โดยรวมในภาคการปฏิบัติแล้วเนี่ย จะต้องทราบอย่างหนึ่งว่าขณะที่พระพุทธเจ้าตรัสคำว่าสตินี่ หมายถึงรวมเอาสัมปชัญญะด้วย สัมปชัญญะเป็นตัวปัญญา และสัมปชัญญะไม่ใช่เพียงการรู้คล่องสัมปชัญญะจะเกิดจากการปฏิบัติ เนี่ยเกิดจากลักษณะของอะไร ก็คือเกิดจากการรู้ตัวทั่วพร้อมเองและไม่เป็นการจัดกระทำด้วย
การทำอานาปานสติไปเรื่อย ๆ นี้ ทำต่อเนื่องต่อเนื่อง ตัวสติปัฏฐานจะปรากฏนะครับตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส อย่างที่เราฝึกกันนี้ คำว่าสติจะเกิดก็ต่อเมื่อตอนที่เห็นว่าสัตว์บุคคลหายไปบำราศไป ดับไป ขณะที่ลมหายใจก็เป็นส่วนของลมหายใจ และก็ในส่วนของตัวสติก็เป็นส่วนของตัวสติ รู้อยู่ ผู้รู้ก็เป็นผู้รู้อยู่ นะครับ แยกกัน คำว่าแยกกัน หมายถึงไม่รวมเป็นสัตว์บุคคล ตรงนั้นเรียกว่าสติปัฏฐานเกิด ในขณะที่สติปัฏฐานเกิดตรงนั้นหนะ หมายเอาสัมปชัญญะด้วย เพราะกำลังของสัมปชัญญะจะตามมาจากสติ ก็เป็นตัวปัญญานั่นเอง
ทีนี้ถามว่าผมไม่ค่อยขยายเรื่องนี้ ก็อยากที่จะปูพื้นฐานในเบื้องต้นก่อน ในเรื่องของลมยาวให้รู้ให้ฝึกไปเรื่อย ๆ ก่อน จนกระทั่งถนนของสัมปชัญญะ ที่จะเริ่มชัดเจนขึ้นเนี่ยจะเกิดตอนที่ลมสั้น ถ้าใครก็ตามเจอลมสั้นแล้วเนี่ย แล้วรู้จดจ่ออยู่ที่ความยาวตามกาลเวลาของลมสั้นต่อไปเรื่อยๆ ตรงนั้นแหละคือเรื่องของการฝึกสัมปชัญญะโดยตรงเลย และสัมปชัญญะเวลาที่เค้ามีสภาพธรรมที่มีกำลังขึ้น ตัวสัมปชัญญะจะมีลักษณะเหมือนการรู้ทั่วกองลมนั่นเอง ก็คือวัตถุที่ 3 ตรงนั้นแหละบ่งชี้ แต่ผมอาจจะไม่ได้เทียบเป็นเรื่องของสัมปชัญญะโดยตรง ทีนี้ตัวสัมปชัญญะกว้างกว่านั้น ยังมีความหมายกินความมากกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่น บุพเพนิวาสานุสติญาณ การระลึกชาติก็ดีเนี่ย ลองสังเกตนะครับ ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าการระลึกชาติของสาวกไปได้แสนชาติ เป็นต้น อย่างนี้นะครับ หรือว่าเป็นกัปป์ ลองระลึกดูว่าถ้าคนเราคนนึงเนี่ย ระลึกไปไม่มีประมาณแบบนั้นหนะ คือแสนชาติก็ดีนี่ เราจะเอาพื้นที่ที่ไหนเก็บเรื่องราวของ แต่ละชาติแต่ละชาติ ไม่สามารถเก็บได้นะ จะเก็บได้ก็ต่อเมื่อชุดข้อมูลทั้งหมดมันมาเป็นก้อน คำว่ามาเป็นก้อนก็คือเป็นก้อนของชุดข้อมูล นี่แหละคือลักษณะของสัมปชัญญะ ที่ผมบอกว่ามีนัยยะอันกว้าง นะครับ
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติอานาปานสติ เมื่อเข้าถึงสติปัฏฐาน หรือกล่าวโดยย่อคือเข้าถึงการไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนแล้ว หรือยถาภูตญาณทัสสนะปรากฏ ตัวสติก็จะมีกำลัง สัมปชัญญะก็มีกำลัง แล้วการรู้ตรงนั้นเนี่ย รู้เป็นชุดข้อมูล ไม่ต้องไปจัดกระทำ ไม่ต้องไปจำกัดการรู้เลย ไม่ต้องไปฝึกเพื่อจะให้รู้ แต่ฝึกอานาปานสติเนี่ยเดี๋ยวรู้เอง ประมาณนี้นะ
เพราะฉะนั้น ผมจึงไม่ค่อยพูดเท่าไหร นะฮะ ไม่ค่อยพูดเรื่องนี้เท่าไหร แต่ส่วนใหญ่แล้วในโลกปัจจุบันเนี่ย ที่เค้าพูดเรื่องนี้ก็เพราะว่าเค้าไม่นั่งกัน เค้าไม่นั่งสมาธิเค้าก็บอกว่ารู้ตัวทั่วพร้อม รู้ตัวทั่วพร้อมเป็นสติปัฏฐาน เพราะเค้าไปตีค่าแบบนั้น จึงทำให้เกิดยุคของการปฏิบัติที่ไม่นั่งสมาธิ แต่ทั้งวันทั้งวันนั้นหนะมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ซึ่งอันนี้ผมไม่ค่อยที่จะพูดถึงเท่าไหร ก็ด้วยเหตุนี้ด้วยนะครับ บวกกับถ้าคนฟังธรรมอยู่ในส่วนนี้มาบ่อยๆ เค้าก็คงคิดว่าทำไมผมจึงไม่พูดเรื่องนี้ ก็เป็นธรรมดา ก็โฟกัสคนละที่กัน ผมโฟกัสที่ทำอานาปานสตินี่เดี๋ยวเกิดเองเป็นอัตโนมัติ นั่งสมาธิ ทำให้มาก เจริญให้มาก ไม่ใช่ข้ามการนั่งสมาธิไป แล้วก็ไปบอกว่าให้รู้ตัวทั่วพร้อมทั้งวัน สาระคนละจุด ประมาณนี้นะครับ
จาก clip หลักสูตรอานาปานสติEP4/20 โดยท่านอาจารย์ Aero.1
นาทีที่ 3.44 – 9.00