[ผู้ร่วมสนทนา]
ท่านอาจารย์ครับ เดี๋ยวผมขอนุญาตอีกนิดนึงครับท่านอาจารย์ เดี๋ยวมันจะค้าง เดี๋ยวมันจะกลายเป็นกรรมของผม เอ่อ ที่ผมกล่าวถึงเมื่อกี้นี้ เฉพาะบุคคลซึ่งพร้อมนะครับแต่ผมไม่ได้ก้าวล่วงผู้มีปรารถนาใหญ่นะท่านอาจารย์ ในส่วนนั้นผมก็ให้ความเคารพ ในเจตนาที่จะขนหมู่สัตว์ออกจากสังสารวัฏนะครับ ตอนนี้ไม่ใช่กาลไม่ใช่สมัย มันก็เป็นไปอย่างนั้น แต่สำหรับบุคลอื่น ๆ ที่รองลงมา ที่เน้นว่าอย่าให้กิเลสหลอกเนี่ย อันนั้นก็ฝากพิจารณา แต่สำหรับผู้บำเพ็ญบารมีใหญ่นี่ ผมไม่ก้าวล่วงนะครับ ด้วยความเคารพครับ ขอบพระคุณครับ
[อาจารย์ Aero.1]
อืม ก็ เราศึกษาผ่านเถรวาทนี่ บางทีแล้วถ้าจะพูดถึงสภาพของโพธิสัตว์นะ บางทีสิ่งที่บรรจุอยู่ในขวดหรือนามเรียกขานนี่ ไม่เหมือนกันนะ เพราะฉะนั้น บางคนในสังคมพุทธนี่มีจำนวนมากที่บ่งว่า อ้อ รูปนั้นเป็น รูปนี้เป็น อย่างงี้นะ บางทีท่านอาจจะไม่ได้เป็นอะไรเลยก็ได้
เพราะฉะนั้นตามที่ผมศึกษามาเนี่ย สภาพตรงนั้นหนะ เราข้าม คำว่าข้ามไม่ได้หมายถึงว่า อะไรนะ ก็หมายถึงว่าทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เข้าสู่หลักให้ได้ ผลจะเป็นอย่างไรอีกเรื่องนึง แต่ในขณะเดียวกันถ้าเค้าปรารถนาว่าเค้าจะเป็นโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีใหญ่อยู่อย่างนั้น แต่ระเบียบวิธีการศึกษายังห่างจากพระสัทธรรมเนี่ย ก็คงจะต้องสั่งสมอีกนานมากนะต้องลงไปเที่ยวนรกต้องลงไปอะไรอีกเยอะ ไม่สนับสนุนนะ
สมัยที่กล่าวกันว่าในคัมภีร์ชั้นอรรถกถาเนี่ย พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหารย์นั้นหนะ แม้แต่มด ปลวก แมลงเนี่ย ก็ปรารถนาเป็นพุทธองค์ เพราะฉะนั้น ตรงนี้ก็เป็นอันนึงนะสำหรับคนที่มีอัตตาใหญ่นะ ปรารถนา แล้วก็ Trend นะ แฟชั่นของสังคมพุทธ ที่เป็นพุทธภายนอกนะ เป็นสัทธรรมปฏิรูปเนี่ยเค้าก็นิยมวาทะแบบนี้ นิยมอุดมคติแบบนี้ ซึ่งเป็นอันตรายนะ ถ้ามองจากมุมเถรวาทออกไป ก็เป็นกับดักนะ กับดักสังสารวัฏที่โดยไม่รู้ตัวด้วย นึกว่าทำความดีนั่นแหละ
เพราะฉะนั้นเรื่องกุศลจึงสำคัญมาก ต้องแยกให้ออกระหว่างความดีที่เค้าสะสมกันวันละพันครั้งพันครั้ง ตามคติสัทธรรมปฏิรูปนั้นหนะ แยกให้ออกว่าเป็นกุศลหรือเปล่า เพราะฉะนั้นกุศลเป็นตัวชี้ชัดนะ ลองไปดูกาลามสูตรหนะ ตัวชี้ชัดคือกุศลนะ ถ้าแยกไม่ออกเนี่ย ก็ทำความดีไปโดยที่เป็นอกุศลก็เยอะแยะ พระองค์จึงไม่ได้สอนแค่ความดี ความดีเป็นพื้นนะ แต่ความดีนั้นต้องพลิกกลับไปเป็นกุศลแล้วก็เป็นฐานรองรับให้เข้าสู่โลกุตรกุศลด้วย นี่อันนี้ทาง ที่เป็นเถรวาท
แตกต่างกันนะ ต้องแยกให้ออกนะในโลกนี้ ผมโพสต์บ่อย ๆ นะ ในห้อง ใน note ก็มีนะ แนวคิด 18 นิกาย แนวคิดพระเจ้ากนิษกะที่แยกเป็นมหายาน แล้วมหายานปัจจุบันเป็นอย่างไร เถรวาทเป็นอย่างไร วัชรยานเป็นอย่างไร รู้ รู้ให้หมดนะ เพราะการปฏิบัติไปเรื่อย ๆเนี่ย คุณก็จะไปเจอสภาพแบบนี้แหละ ตามนิกายต่าง ๆ นี้แหละ ที่ผลิตออกมาเป็นทิฏฐิ และเป็นสีลสามัญญตา ที่เป็นถนนในการที่ผ่านไปตามลำดับ แบบนี้เช่นกัน แล้วข้อถกเถียงในสังคมก็ไม่พ้นสิ่งเหล่านี้ หมายถึงในสังฆมณฑลนะ ขอบคุณที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมานะครับ จะได้มีโอกาสได้พูดนะ ให้ระวัง
[ผู้ร่วมสนทนา]
ท่านอาจารย์ พ่อแม่ครูอาจารย์ผม ท่านเน้นมากเรื่องนี้ ท่านบอกว่าถ้าใครเนี่ยคิดว่าตนเองเป็นโพธิสัตว์ หรือว่าปรารถนาในอนาคตกาล แต่ถ้าเค้าคนนั้น มาเจอพระศาสนานะ เค้าผู้นั้นหนะจะไม่เหยียบย่ำทำลายพระศาสนา ไม่ทำลายพระธรรมวินัย ไม่ล่วงละเมิดแต่บทเดียวบาทเดียว
[อาจารย์ Aero.1]
ถูก
[ผู้ร่วมสนทนา]
เค้าคนนั้นจะยกธรรมวินัยไว้เหนือเกล้าเหนือเศียรเลย
[อาจารย์ Aero.1]
ถูก
[ผู้ร่วมสนทนา]
เพราะเค้าก็ต้องมาประกาศเรื่องนี้ มาบอกมาสอนเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นนี่มันเป็นเครื่องชี้วัดสำรวจครวจตราใจเจ้าของได้ เอ๊ ถ้าเราเคลื่อนจากพระธรรมวินัยนี่ เราไม่ใช่นะ เราไม่ใช่
[อาจารย์ Aero.1]
ถูก
[ผู้ร่วมสนทนา]
ถ้าความเห็นเราผิดเราไม่ใช่ มันเป็นเครื่องตรวจสอบตัวเองง่าย ๆ เลยว่า โอ้ กิเลสมันจูงเราออกไป แต่นี่ผมขออ้างคำของพ่อแม่ครูอาจารย์นะ เพราะว่าผมไม่ถึงเรื่องแบบนั้น ครับท่านอาจารย์ ขอบพระคุณครับ
[อาจารย์ Aero.1]
ก็ลองไปดูจริยาวัตรท่านอชิตะ ท่านก็อยู่ในหมู่สงฆ์ด้วยศีลอันบริสุทธิ์นะ นี่คือพระบุคคลองค์เดียวนะ ในพุทธกาลที่เป็นร่วมสมัยนะ ที่เป็นโพธิสัตว์ แต่ธรรมที่เป็นสัทธรรมปฏิรูปเนี่ยกระจายไปตั้งแต่ราวปี 600 นั้นหนะหลังพุทธปรินิพพานหนะ ในที่สุดกลายเป็นสรรเสริญเรื่องพวกนี้หมด จนทำให้ไม่ถือศีลไม่ถือวินัย ก็เป็นโพธิสัตว์กันหมดหนะ มันใช่เหรอ หรือว่าเป็นผู้ที่มาทำลายพระศาสนาต่างหาก ในยุคปัจจุบัน นิสสัคคิยปาจิตตีย์ยังมีอยู่หนะ แล้วลูกศิษย์จะไปบอกว่าเป็นโพธิสัตว์ เป็นโพธิสัตว์ มันใช่เหรอ ฝากไว้ให้คิด
[ผู้ร่วมสนทนา]
ท่านอาจารย์ ที่ท่านอาจารย์กล่าวว่า เมื่อครั้งสมเด็จพระบรมศาสดาแสดงยมกปาฏิหาริย์ แม้แต่มด แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย
ก็ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ผมก็คิด เมื่อกี้ก็คิดแว๊ปขึ้นมานิดนึง ผมก็คงอาจจะเคยได้เห็นได้ยินได้ฟังมา ถ้าความปรารถนาอย่างนั้นมันเกิดขึ้นแก่ผม ผมก็ไม่เอานะ ไม่เอา ส่วนปรารถนาสิ่งอื่นหรือว่าในฐานะอื่นนี่ ก็คงไม่เอา ส่วนที่เคยปฏิญาณกันไว้ ก็คิดว่าชีวิตนี้ก็ปลดเปลื้องหน้าที่ภาระพันธะแก่กันโดยดี ด้วยดี ก็จะได้จากกันด้วยไม่ติดข้องหมองใจ กรรมใดที่เคยทำร่วมกันมา ก็ให้มันยุติ ก็ปรารถนาอย่างนี้ท่านอาจารย์ เราคงดันไปไม่ถึงหรอก ชีวิตมันทุกข์เหลือเกิน ส่วนผู้ใดปรารถนา ผมก็โมทนาสาธุล่วงหน้าอีกครั้งนึง ขอบพระคุณครับ
[อาจารย์ Aero.1]
(หัวเราะ) นั่นแหละ ๆ นะ จะไปปรารถนาทำไม จะไปตั้งทำไม ทำเหตุนะ กลับมาที่เหตุ เดี๋ยวพอถึงจุดๆ นึงรู้เอง ให้ข้ามวิปัสสนูกิเลสไปได้นะ เรื่องนี้ค่อยมาตัดสินใจอีกรอบนึงนะ อันนี้พูดถึงโดยรวมนะ ไม่ได้บอกคุณนะ พอข้ามวิปัสสนูกิเลสแล้วทางมันจะชัดขึ้นนะ จะเห็นเอง ไม่ใช่ไปตั้งไว้ตั้งแต่ยังไม่รู้จักทานกุศล ศีลกุศลเลย ฉันจะเป็นนู่นเป็นนี่ เป็นนั่น อันนี้มันปาหี่ทั้งนั้นนะ อันตราย และก็เป็นกลุ่มคนที่ทำลายพระศาสนาโดย ไม่รู้ตัว เป็นขุยไผ่ที่ทำลายต้นไนั่นแหละ เป็นสนิมที่ทำลายเนื้อเหล็กนั่นแหละ เนี่ยพุทธพจน์นะ ขุยไผ่เท่านั้นและที่จะทำลายต้นไผ่
ศาสนาเราก็เช่นเดียวกันนะ พระสัทธรรมก็เช่นเดียวกัน ไม่มีใครทำลายได้หรอก ก็มีคนในนี่แหละ ทำลาย
จากคลิป EP16 สวรรค์ในศาสนาต่างๆ, อุปมาฝนนอกฤดู, การฝึกดับสัญญา พ.5 ม.ค.65 เวลา 19.31 น. โดยท่านอาจารย์Aero.1
นาทีที่ 1.59.28 – นาทีที่ 2:09:09